โตโย-ไทย กำไรโตวันโตคืน งวดครึ่งปีโต 59% ทะลุ 221 ล้านบาทสูงสุดกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
โตโย-ไทย กำไรโตวันโตคืน งวดครึ่งปีโต 59% ทะลุ 221 ล้านบาทสูงสุดกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.15 บาท เตรียมเสนองานเพิ่มเดือนนี้กว่า 3,000 ล้านบาท ชูจุดแข็งผู้นำ EPC เบอร์ 1 ในอาเซียน

บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการรับเหมาออกแบบ จัดหา และก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ครบวงจร (EPC หรือ Engineering, Procurement and Construction) รายแรกและรายเดียวของไทย รายงานผลประกอบการครึ่งปีแรก 2552 โดดเด่น มีกำไรสุทธิ 221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิและอัตราส่วน ROE สูงที่สุดในกลุ่มหุ้นรับเหมาก่อสร้าง (ขณะที่ผู้รับเหมารายใหญ่หลายรายมีผลประกอบการที่ถดถอย)

นายฮิโรโนบุ อิริยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ สามารถสร้างผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอดจนมีผลกำไรสุทธิสูงที่สุดในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยในช่วง 6 เดือนแรกนี้ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 59% เป็น 221 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 139 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีรายได้รวมที่เติบโตขึ้น 18% เป็น 6,273 ล้านบาท จากรายได้รวม 5,296 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2551 และหากเทียบรายไตรมาส บริษัทฯมีกำไรเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่2 ปีนี้ 69% เป็นกำไรสุทธิ 81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิ 48 ล้านบาทไตรมาสที่ 2 ของปี 2551

คุณสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า TTCL มุ่งเน้นการเติบโตอย่างมั่นคง ทั้งด้านผลประกอบการที่ดี และ ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจแก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมี อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ 32.8% ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มรับเหมาขนาดใหญ่และมีอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น(EPS) ที่ 0.63 บาท เพิ่มขึ้น 43% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้นเป็นเงินทั้งสิ้น 72 ล้านบาทในวันที่ 11 กันยายน 2552 นี้ โดยเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่รายเดียวที่จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ผลประกอบการที่โดดเด่นของบริษัทฯ มาจากจุดแข็งการเป็นผู้นำด้านบริการ EPC- รับเหมาสร้างโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจร ตั้งแต่ ออกแบบวิศวกรรม จัดซื้อติดตั้งเครื่องจักร และ บริหารงานก่อสร้างซึ่งเป็นการดำเนินงานที่ยากกว่างานรับหมาก่อสร้างทั่วไป แต่สร้างผลกำไรที่แน่นอน กอปรกับบริษัทฯสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตรงเวลาทุกโครงการ โดยไม่มีอุบัติเหตุและการสูญเสียเลย จึงสามารถรับรู้รายได้ได้ตามแผน และที่สำคัญลูกค้าทั้งหมดของบริษัทเป็นกลุ่มบริษัทมหาชนขนาดใหญ่หรือบริษัทเอกชนระดับนานาชาติ อาทิ กลุ่มปตท กลุ่มSCG หรือ ปูนซิเมนต์ไทย ที่มีสถานะการเงินขั้นดีมาก จึงสามารถชำระเงินได้ตรงเวลามาโดยตลอด

คุณสุวิทย์อธิบายว่า บริษัทฯยังเดินหน้าขยายการรับงานโครงการใหม่ๆจากกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ หลังจากได้รับงานใหม่แล้ว 5 โครงการในช่วงครึ่งปีแรก มูลค่างานรวมกว่า 3,000 ล้านบาททำให้บริษัทฯมีปริมาณงานในมือ หรือ แบ็คลอค อยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาทในปัจจุบัน และกำลังเสนองานเพิ่มเติม 2 โครงการในเดือนนี้มูลค่างานรวม 3,000 ล้านบาทซึ่งคาดว่ามีโอกาสชนะค่อนข้างสูง โครงการทั้ง 2 เป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ในประเทศในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ และพลังงานทดแทน ซึ่งเป็น งานที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญสูง นอกจากนี้ในปลายปีนี้ บริษัทคาดว่าจะได้รับเชิญเข้าเสนองาน EPC อีกหลายโครงการ มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 35,000 ล้านบาท อาทิโรงงานปุ๋ยที่ประเทศเวียตนามและโมร็อคโค โรงงานปิโตรเคมีของกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ของไทยทั้ง 2 กลุ่ม โรงงานปิโตรเคมี ในยุโรปตะวันออก ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับงานในสัดส่วนที่น่าพอใจเช่นกัน

บริษัทโตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งเดียว ที่มีผลประกอบการที่เติบโตสูงและต่อเนื่องมาตลอดกว่า 20 ปี (ปี 2551 บริษัทมีรายได้รวม 11,049 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 314 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2550 141% และ 124 % ตามลำดับ อนึ่งในช่วงปี 2548-2551 บริษัทมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยของรายได้รวม และกำไรสุทธิปีละ 42% และ 48 %) อีกทั้งบริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยมูลค่าเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวกว่า 4,000 ล้านบาท โดยไม่มีภาระหนี้เงินกู้เลย บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นในปี 2528 โดยการร่วมทุนระหว่างบริษัท โตโย เอนจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านรับเหมาวิศวกรรมโรงงานครบวงจรที่มีประสบการณ์กว่า 48 ปีจากประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาทั่วไปที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย มีทุนจดทะเบียนรวม 480 ล้านบาท เป็นทุนที่ชำระแล้ว 480 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนวิศวกรทุกสาขามากที่สุดในประเทศไทยคือ 853 คนจากพนักงานทั้งหมด 1,662 คน บริษัทฯมีประสบการณ์ในการรับเหมาสร้างโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจรทั้งในประเทศและต่างประเทศมาแล้วกว่า 160 โครงการ คิดเป็นมูลค่างานรวมกว่า 60,000 ล้านบาท มีฐานลูกค้าครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ เคมีภัณฑ์ ปิโตรเคมี ปิโตรเลียม ปุ๋ยเคมี โรงไฟฟ้า พลังงานทดแทน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทมหาชนและบริษัทต่างชาติขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มปตท. กลุ่ม SCG หรือปูนซิเมนต์ไทย กลุ่มบมจ. วีนิไทย กลุ่มคาโอของญี่ปุ่น กลุ่มไบเออร์ของเยอรมัน เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทมีประสบการณ์รับงานในต่างประเทศมากว่า 12 ปี ซึ่งสร้างรายกว่า 6,000 ล้านบาท โดยกลุ่มตลาดหลักในต่างประเทศได้แก่ เวียดนาม ซึ่งบริษัทมีบริษัทย่อยดำเนินงานอยู่ จีน กลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มตะวันออกกลาง กลุ่มอาฟริกา และสหรัฐอเมริกา