บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2528 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 20 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจการให้บริการด้านการออกแบบวิศวกรรม การจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์ และการก่อสร้างโรงงานแบบครบวงจร (Integrated Engineering, Procurement and Construction, Integrated EPC) ภายใต้การร่วมทุนของ Toyo Engineering Corporation (“TEC”) (ประเทศญี่ปุ่น) และบมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (“ITD”) ในสัดส่วนร้อยละ 49.0 และร้อยละ 51.0 ตามลำดับ โดยจัดเป็นบริษัท ผู้ให้บริการ Integrated EPC รายแรกของประเทศไทย ที่มีความสามารถในการให้บริการอย่างครบวงจรด้วยตนเอง ทั้งนี้ บริษัทมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการ ออกแบบวิศวกรรม (Engineering Design) การจัดซื้อจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์ (Procurement of Machinery and Equipment) และการรับเหมาก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม (Construction of Turn-key Projects for Industrial and Process Plants) ซึ่งครอบคลุมถึงระบบการผลิตระบบสาธารณูปโภคของโรงงาน และระบบการจัดเก็บ ลำเลียง และขนส่งผลิตภัณฑ์ โดยกลุ่มลูกค้าของบริษัท ได้แก่ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมพลังงานปิโตรเคมีและพลังงาน

บริษัทได้เล็งเห็นแนวโน้มการเติบโตของความต้องการงานบริการ Integrated EPC ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมพลังงานปิโตรเคมีและโรงไฟฟ้า ด้วยความพร้อมของทีมวิศวกรบริษัทในการจัดการโครงการที่มีมูลค่าสูงและงานที่ใช้เทคโนโลยีวิศวกรรมที่ซับซ้อน และความได้เปรียบในด้านต้นทุนค่าใช้จ่ายจัดการโครงการที่ต่ำกว่าคู่แข่ง บริษัทจึงมีนโยบายที่จะเพิ่มการรับงานโครงการในต่างประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศกาตาร์ และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้านสถานะทางการเงินและเสริมสร้างความน่าเชื่อถือสำหรับลูกค้าในต่างประเทศ บริษัทจึงเสนอขายหุ้นต่อประชาชนและนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเดือนมิถุนายน 2552

ด้วยความเป็นผู้นำในการให้บริการ Integrated EPC ตลอดระยะเวลามากกว่า 30 ปี ที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการให้บริการออกแบบและก่อสร้างโรงงาน ต่างๆ มากกว่า 200 โครงการ ทำให้บริษัทมีชื่อเสียงและได้รับความไว้วางใจอย่างสูงจากลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องคุณภาพของงาน การออกแบบและการก่อสร้าง การส่งมอบงานได้ทันตามกำหนดการ และความปลอดภัยในการดำเนินงาน และได้ทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว เป็น 560 ล้านบาท ในปลายปี 2556 โดยวัตถุประสงค์ ในการเพิ่มทุนครั้งนี้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และเป็นเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าของบริษัทต่อไปในอนาคต

ข้อมูลบริษัท

ข้อมูลบริษัท
27 เมษายน 2561
ในวันที่ 27 เมษายน 2561 ได้มีมติผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 336 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 560 ล้านบาท เป็น 896 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 336 ล้านหุ้น มูลค่า ที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญ แสดงสิทธิ TTCL-W1 จำนวน 112 ล้านหุ้น การออกและจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 168 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering) และจำนวน 56 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
เมื่อปี 2561
บริษัทได้ทำการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 56 ล้านหุ้น ให้กับ Sojitz Corporation (“Sojitz”) ซึ่งหลังจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ทำให้ Sojitz เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แทนที่ TEC ที่ทำการขายไปต้นปี 2561 โดยวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะทำให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ส่งผลให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วเป็นจำนวน 616 ล้านบาท
เมื่อปี 2563
บริษัทได้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานชีวมวล เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศชั้นนำต่าง ๆ ทั่วโลก หนึ่งใน นโยบายดังกล่าว คือ นโยบายการปลดระวางโรงไฟฟ้าถ่านหิน (Coal Phase-out) ซึ่งพลังงานชีวมวลสามารถถูกนำมาใช้ เพื่อทดแทนการใช้ถ่านหินได้ เพื่อเสริมสร้างการพัฒนาโครงการพลังงานชีวมวลของบริษัท บริษัทได้เข้าซื้อกิจการของบริษัทแบล็ควูดเทคโนโลยี (Blackwood Technology) บริษัทสัญชาติเนเธอร์แลนด์ที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์ทางปัญญาในเทคโนโลยีทอร์ริแฟคชั่น (Torrefaction) ซึ่งช่วยส่งเสริมธุรกิจชีวมวลทอร์ริแฟคชั่น (Torrefied Biomass Business) สำหรับการผลิตเชื้อเพลิงอัดเม็ดทอร์ริไฟด์ (Torrefied Pellet) อันเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลที่มีศักยภาพเพื่อทดแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ถ่านหิน และน้ำมัน
ปัจจุบัน
บริษัทประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการพลังงานชีวมวล ร่วมกันกับบริษัทอิเดมิตสึ โคซัน (Idemitsu Kosan Co., Ltd.) ซึ่งเป็นหนึ่งใน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และหุ้นส่วนทางธุรกิจที่สำคัญของบริษัท นอกเหนือจากการให้บริการด้านการออกแบบวิศวกรรม การจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์ และการก่อสร้างโรงงานแบบครบวงจร บริษัทมีนโยบายในการเป็นผู้ให้บริการด้านพลังงานเพื่อตอบรับต่อการเติบโตของตลาดโลกและความต้องการของลูกค้า ผ่านการมีส่วนร่วมในธุรกิจที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาด ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีการเติบโตทางธุรกิจและมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน